วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2563

นายกฯ โพสต์เฟซฯ บอกดีใจ ลงพื้นที่นราธิวาส พบปะประชาชน💖


นายกฯ โพสต์เฟซฯ บอกดีใจ เดินทางลงพื้นที่นราธิวาส พบประชาชนรับฟังปัญหา ช่วงบ่าย พบนักเรียนในโครงการ “รินน้ำใจสู่น้องชาวใต้” เตรียมความพร้อมให้นักเรียนมัธยม 

วันที่ 20 ม.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Paryut chan-o-cha ว่า วันนี้ผมเดินทางมาจังหวัด #นราธิวาส ดีใจที่จะได้พบปะพูดคุย และรับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยช่วงเช้าจะไปดูความคืบหน้า โครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วม ช่วงบ่ายไปพบนักเรียนในโครงการ “รินน้ำใจสู่น้องชาวใต้” เป็นโครงการเตรียมความพร้อมให้นักเรียนระดับมัธยมในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดภาคใต้ชายแดนที่ขาดโอกาส ให้ได้รับการแนะแนวพัฒนาวิชาการเพื่อศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ส่วนวันพรุ่งนี้ จะมีการประชุม ครม.ในพื้นที่ครับ
แหล่งที่มาhttps://www.thairath.co.th/news/politic/1751538



นายกฯ ลั่น แผ่นดินไทยอย่าให้ใครแบ่งแยก ชี้ ไม่อยากให้ใครเจ็บ-ตาย✋

ายกฯ หนักใจแก้ปัญหาเก่า เจอปัญหาใหม่แทรก ลั่น แผ่นดินไทยอย่าให้ใครมาแบ่งแยก ขู่ ใครกดราคาซื้อยาง-ปาล์มโดนหมด ลั่น พร้อมดูแลทุกพรรค
         วันที่ 20 ม.ค. 2563 ที่อาคารรื่นอรุณ เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการลงพื้นที่ตรวจราชการและประชุม ครม.สัญจร        ติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาจังหวัด โดยมีประชาชนกว่า 2,000 คนมาต้อนรับนายกรัฐมนตรีกล่าวทักทายสวัสดีเป็นภาษามลายู “อัสสลามุอะลัยกุม” พร้อมกล่าวว่า เราจะมาช่วยกันระดมความคิด หากได้อยู่ต่อเราก็จะทำให้ต่อเนื่องไป เพราะนี่คือความยั่งยืน การแก้ไขปัญหามีทั้งเหนื่อยและหนักใจ ซึ่งเป็นความเดือดร้อนของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่เฉพาะจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง มีทั้งปัญหาเดิมและปัญหาใหม่เข้ามาแทรกส่งผลกระทบทั่วไป ขณะที่ภาคใต้งบประมาณแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ งบประมาณความมั่นคงและงบประมาณพัฒนา ซึ่งใช้มากพอสมควร ไม่ว่าจะพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษหรือโครงการต่างๆ ซึ่งต้องปรับการทำงานให้สอดคล้องกับความต้องการในพื้นที่ในทุกกิจกรรม โดยงบประมาณจะต้องกระจายลงไปในพื้นที่เพื่อบริหารงานได้ ไม่ใช่ให้เป็นก้อนใหญ่ทั้งนี้ ถือว่าทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกับตน ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด เชื้อชาติใด ล้วนเป็นคนไทยทั้งสิ้น ที่นี่คือแผ่นดินไทย จะแบ่งแยกไม่ได้ ต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาของพวกเราเอง อย่าให้ใคร อย่าไปเอาต่างประเทศมาช่วยแก้ เพราะที่นี่คือบ้านเมืองของเรา แล้วยิ่งปัญหาที่มีความกระทบกระทั่ง คนขัดแย้งไม่เข้าใจกันทางความคิดต้องพยายามทำให้เข้าใจมากขึ้น เรามียุทธศาสตร์เยอะแยะ ส่วนเรื่องราคายางพารา ปาล์มน้ำมัน ใครซื้อกดราคาโดนหมด ต้องโปร่งใส จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ถามผู้ร่วมงานว่า “ใครรักผม ให้ยกมือขึ้น” ส่วนใหญ่ยกมือ นายกรัฐมนตรีจึงกล่าวว่าตนเป็นทหาร บางทีพูดเพราะบ้าง ไม่เพราะบ้าง แต่จริงใจ ส่วนสถานการณ์ภาคใต้ตอนนี้ลดลง ไม่อยากให้ใครเจ็บใครตายทั้งนั้น
              นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม อำนวยความสะดวกการใช้โทรศัพท์ให้ดีขึ้น แต่ขอให้ประชาชนเปิดโทรศัพท์ที่เป็นสาระ ไม่ได้ต่อว่าใคร ไม่เคยดูถูกใคร บางทีพูดเพื่อให้เข้าใจบ้าง แต่กลับโดนกล่าวหาไปดูถูกคน จะไปดูถูกประชาชนได้อย่างไร เพราะประชาชนเป็นเจ้านายตนทั้งนั้น และ ส.ส.ในพื้นที่รัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้ง ประชาชนเลือกมาต้องทำงานให้คุ้ม และประชาชนก็อย่าทอดทิ้งเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคร่วมรัฐบาล พรรคอื่นก็เป็นเรื่องของเขา แต่พร้อมดูแลหากเขามาร่วมมือในช่องทางที่เป็นไปได้ จะทำให้หมด รังเกียจเขาไม่ได้ เพราะประชาชนอยู่กับเขา ประชาชนเลือกมา ไม่ว่าจะพรรคไหนก็ตาม ซึ่งประชาธิปไตยเป็นอย่างนี้

            จากนั้นนายกรัฐมนตรีลงจากเวทีเดินทักทายนักเรียน นักศึกษา ประชาชน รวมถึงถ่ายรูปเซลฟี่ทำสัญลักษณ์มินิฮาร์ท ก่อนเยี่ยมชมนิทรรศการ อาทิ คลินิกกัญชาทางการแพทย์ จ.นราธิวาส การค้าขายออนไลน์ ต้นกระบองเพชร ผลิตภัณฑ์จากวิทยาลัยการอาชีพสุไหงโก-ลก และผลิตภัณฑ์โอทอป ชิมน้ำผึ้งชันโรง ซึ่งสรรพคุณช่วยรักษาเบาหวาน ความดัน โรคเกาต์ เพิ่มสมรรถภาพ และอุดหนุนซื้อกระเป๋ากระจูดผสมหนัง และผ้าทอลายพิกุลพลอย.
แหล่งที่มาhttps://www.thairath.co.th/news/politic/1751878

เล่นกับเด็ก👦👧💖


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ร่วมเซลฟี่กับเด็ก ม.6 โรงเรียนนราธิวาส ในโครงการ “รินน้ำใจสู่พี่น้องชาวใต้” อย่างสนุกสนาน ระหว่างนำ ครม.ลงพื้นที่ตรวจราชการ และประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.นราธิวาส.

แหล่งที่มาhttps://www.thairath.co.th/news/local/south/1752236

นร.ทุน กสศ.ขอบคุณ นายกฯ-รัฐบาล ให้โอกาสสานฝันเป็น ครูรัก(ษ์)ถิ่น👭💖


นร.ทุน กสศ.ขอบคุณ นายกฯ-รัฐบาล ให้โอกาสสานฝันเป็น ครูรัก(ษ์)ถิ่น แม้ลำบากไม่หวั่น ขอพัฒนาบ้านเกิด ด้าน กสศ.เดินหน้าช่วยเด็กด้อยโอกาส 3 จังหวัด มากกว่า 5.3 หมื่นคน 


วันที่ 21 ม.ค. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แวะกล่าวทักทายเด็กนักเรียนโครงการเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษแบบมีเงื่อนไข หรือนักเรียนทุนเสมอภาค จากโรงเรียนบ้านคอลอกาเว อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส และนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น ที่มารอต้อนรับ






วันที่ 21 ม.ค. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แวะกล่าวทักทายเด็กนักเรียนโครงการเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษแบบมีเงื่อนไข หรือนักเรียนทุนเสมอภาค จากโรงเรียนบ้านคอลอกาเว อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส และนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น ที่มารอต้อนรับ
โดยมีนายสุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) กล่าวรายงานสถานการณ์การช่วยเหลือเด็กในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ว่า กสศ.ดำเนินโครงการเพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนด้อยโอกาส ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ผ่านโครงการเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษอย่างมีเงื่อนไข โดยมีนักเรียนจาก 3 จังหวัด ได้รับทุนเสมอภาค จำนวน 53,763 คน จาก 937 โรงเรียน จำแนกเป็น จังหวัดนราธิวาส 23,783 คน จังหวัดปัตตานี 14,148 คน จังหวัดยะลา 15,832 คน
         “เด็กๆ จะได้รับเงินอุดหนุน 3,000 บาทต่อคนต่อปีการศึกษา เพื่อบรรเทาอุปสรรคในการมาเรียน เช่น เป็นค่าอาหารเช้าสำหรับชั้นอนุบาล-ประถมศึกษาและค่าอาหารเช้า/อาหารกลางวันสำหรับชั้นมัธยมศึกษา ค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาเรียน ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพระหว่างเรียน รวมถึงเพื่อเป็นค่ากิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ โดยข้อมูล ระบบ iSEE ของกสศ. พบว่า เด็กกลุ่มนี้ อยู่ในครอบครัวที่มีรายได้เฉลี่ยต่อคน/เดือน 957 บาท หรือราว 32 บาทต่อวัน เท่านั้น”

    นายสุภกร กล่าวว่า ความพยายามในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในพื้นที่ 3 จังหวัด ยังรวมไปถึงการแก้ปัญหาครู ไม่ครบชั้นและโยกย้ายบ่อย ผ่านโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น ที่กสศ.ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ช่วยสร้างโอกาสให้นักเรียนช้างเผือกในพื้นที่ห่างไกล ที่มีใจรักในวิชาชีพครู และมีศักยภาพในการเรียนรู้ ได้เรียนครูจนจบปริญญาตรีอย่างมีคุณภาพ และได้รับการบรรจุเป็นครูรุ่นใหม่ในโรงเรียนขนาดเล็กพื้นที่ห่างไกลซึ่งเป็นบ้านเกิดของตนเอง โดยในพื้นที่ 3 จังหวัด กสศ.ทำงานร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาในการเป็นสถาบันผลิตและพัฒนาครูรุ่นใหม่ ในปี 2563 มีนักเรียนชั้น ม.6 ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และยะลา ได้รับทุนจำนวน 19 คน หลังสำเร็จการศึกษาจะบรรจุในโรงเรียนขนาดกลางและขนาดเล็กของ สพฐ. ทั้ง 2 จังหวัด จำนวน 16 แห่ง



ทั้งนี้ โครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น มีพื้นที่ดำเนินงานจำนวน 282 โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล สังกัดสพฐ. รวม 45 จังหวัด ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยผลิตครูจำนวน 5 รุ่น รวมทั้งสิ้น 1,500 คน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลเอกประยุทธ์ ใช้เวลาสั้นๆ พบปะนักเรียน และให้กำลังใจว่าให้ตั้งใจเรียนเป็นคนดีของสังคม จากนั้น ตัวแทนนักเรียนทุนเสมอภาคได้มอบของที่ระลึกเป็นปูนปั้น 'ปลากือเลาะห์' และภาพเขียนสีน้ำจากฝีมือเด็กๆ นักเรียนทุนเสมอภาคที่ช่วยกันวาดขึ้นเพื่อแสดงความขอบคุณสำหรับโอกาสทางการศึกษาที่ได้รับ ก่อนจะถ่ายภาพร่วมกัน
ด.ญ.วารัส สาแมง นักเรียนชั้น ป.5/2 นักเรียนทุนเสมอภาค โรงเรียนบ้านคอลอกาเว กล่าวว่า ของที่ระลึกที่นำมามอบให้กับท่านนายกฯ เป็นเสมือนคำขอบคุณจากใจเด็กทุนเสมอภาคทุกคน ที่รัฐบาลและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย มองเห็นความสำคัญของการศึกษา และได้มอบทุนการศึกษาช่วยสนับสนุนให้เด็กๆ ที่มาจากครอบครัวยากจนได้เรียนหนังสือเหมือนกับเด็กคนอื่น สำหรับของขวัญที่นำมามอบให้ คือปูนปั้นปลากือเลาะห์ หรือ ปลาพลวงชมพู ซึ่งเป็นปลาประจำอำเภอศรีสาคร ได้รับสมญาว่าเป็นราชาแห่งแม่น้ำสายบุรี และหายากที่สุด และอีกชิ้นเป็นภาพวาดสีน้ำ แสดงถึงธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของอำเภอศรีสาคร จากฝีมือเด็กๆ กลุ่มฝึกทักษะอาชีพ ที่ช่วยกันวาดขึ้นเพื่อตั้งใจนำมามอบให้กับนายกรัฐมนตรีโดยเฉพาะ ทั้งนี้นอกจากแทนคำขอบคุณแล้ว เด็กๆ หวังว่านายกรัฐมนตรีจะได้เดินทางกลับมาที่จังหวัดนราธิวาสอีกครั้ง

ด.ญ.สีตีนูรูลอาดีลลาท์ บินอูมา นักเรียนชั้น ม.2/2 โรงเรียนบ้านคอลอกาเว กล่าวว่า ก่อนจะได้รับทุนการศึกษาจาก กสศ. ต้องมาเรียนบ้าง หยุดเรียนบ้าง เพราะไม่มีเงิน แต่พอได้รับทุนของ กสศ. ได้ช่วยลดภาระในครอบครัวทำให้ชีวิตดีขึ้น และทำให้มาโรงเรียนได้ทุกวัน ส่วนตัวเป็นคนชอบเรียนหนังสือ อยากเรียนจบชั้นสูงๆ ก็หวังว่าจะมีโอกาสได้ทำตามฝันที่อยากเป็นครูมาสอนในพื้นที่บ้านเกิดน.ส.นิยดา จรัสวงษ์ นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนสุคิรินวิทยา จ.นราธิวาส ผู้ผ่านการคัดเลือกในโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น กล่าวว่า หากเรียนจบตั้งใจจะกลับบ้านมาพัฒนาอำเภอสุคิริน ในจังหวัดนราธิวาส ที่วันนี้แม้เป็นพื้นที่ห่างไกล ขาดแคลนบุคลากร หรือไม่มีความสะดวกสบายหลายด้าน หนูก็ไม่หวั่น ความหวังของหนู คืิอการได้กลับมาพัฒนาน้องๆ หรือคนรุ่นต่อไปให้เขามีความรู้ที่มากขึ้น ซึ่งโครงการนี้จะช่วยสานฝันการเป็นครูให้สำเร็จได้จริง หากไม่มีโครงการนี้ก็คงหมดโอกาสที่จะได้เป็นครูกลับมาพัฒนาท้องถิ่นอย่างแน่นอนน.ส.สุธิดา ทองราช นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติฯ จ.ยะลา ผู้ผ่านการคัดเลือกในโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น กล่าวว่า ความตั้งใจของการเป็นครูรักษ์ถิ่น คือจะกลับมาพัฒนาชุมชน โดยตนมองว่าจะกลับไปพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่น คือสะพานข้ามทะเลสาบป่าฮาลา-บาลา โดยสร้างอาชีพให้เด็กๆ เป็นมัคคุเทศก์นำเที่ยว เกิดแหล่งรายได้สำหรับคนในชุมชน ส่วนสินค้าโอทอปจะเป็นพวกปลา ทั้งปลาส้มหรือปลากระโดด ซึ่งมีอยู่มากในทะเลสาบครูสุนิดา อุมา ครูโรงเรียนบ้านคอลอกาเว กล่าวว่า ขอบคุณที่รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญของนักเรียนยากจนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้เพราะมีจำนวนมาก ซึ่งเด็กยากจนพิเศษหรือนักเรียนทุนเสมอภาคของ กสศ. ที่โรงเรียนมีประมาณ 333 คน จากจำนวนนักเรียนประมาณ 1,200 คน ส่วนใหญ่มีฐานลำบากยากจน อีกทั้งที่ผ่านมาโรงเรียนแทบไม่เคยได้รับโอกาสดีๆ เช่นนี้ เนื่องจากโรงเรียนอยู่ไกลและยังเคยอยู่ในพื้นที่สีแดง ที่มีการก่อเหตุความรุนแรงบ่อยครั้งทำให้การช่วยเหลือต่างๆ อาจมาไม่ถึง และต้องขอบคุณกสศ. ที่มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ อีกครั้ง"เงินที่เด็กๆ ได้รับสามารถลดปัญหาอุปสรรคการมาโรงเรียนได้อย่างดี จากเดิมเด็กบางคนต้องหยุดเรียนไปเพราะไม่มีค่าใช้จ่ายเดินทางมา เมื่อพอมีทุนจากสศ.กลับทำให้เด็กๆ สามารถมาโรงเรียนและไม่ขาดเรียนอีก" ครูสุนิดา กล่าว
แหล่งที่มาhttps://www.thairath.co.th/news/local/south/1752895 





เข้มปลอดภัย “บิ๊กตู่” ประชุม ครม.สัญจรนราธิวาส กำชับทุกส่วนต้องไม่ทุจริต☝


“บิ๊กตู่” นำประชุม ครม.สัญจร นัดแรกของปีที่นราธิวาส พอใจผลงานลงพื้นที่หลังเห็นรอยยิ้มประชาชน ย้ำทุกกระทรวงกำชับในส่วนงานต้องไม่ทุจริต ทำผิดกฎหมาย
วันที่ 21 ม.ค. 2563 ที่ห้องประชุม อาคารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จ.นราธิวาส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน (นราธิวาส ปัตตานี และยะลา) ก่อนที่ในเวลา 10.30 น. นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2563 (ครม.สัญจร) ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารยืนประจำจุด ทุกๆ 200 เมตร มีเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์ก (Black Hawk) บินตรวจ โดยเมื่อคืนวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พักค้างคืนในค่ายจุฬาภรณ์ กองพันทหารราบที่ 9 รักษาพระองค์ จ.นราธิวาส

ทั้งนี้ ก่อนการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ ทักทายกับบรรดานักศึกษาวิชาทหารหญิงชั้นปีที่ 4 และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ พร้อมทักทายและร่วมถ่ายรูป จากนั้นเยี่ยมชมกิจกรรมต่างๆ อย่างอารมณ์ดี อาทิ ผลิตภัณฑ์จักสานกระจูด ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มกระจูดบ้านโคกพะยอม พร้อมชื่นชมว่ามีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงรูปแบบให้ทันยุคทันสมัยมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้ทดลองนวดคลายเส้นเพื่อแก้เมื่อย โดยพูดด้วยว่า “ช่วงนี้รู้สึกเมื่อย” ขณะที่ช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชนใดๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเสียบบัตรแทน หรือกรณีปัญหา นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รุกป่าเขาใหญ่
            ขณะที่ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน พล.อ.ประยุทธ์ ยังเผยด้วยว่า จากการลงพื้นที่ จ.นราธิวาส ก่อนการประชุม ครม.สัญจร ต้องขอบคุณ ครม.ทุกท่านที่ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม จุดต่างๆ ทั้งสามจังหวัดภาคใต้ ขณะเดียวกัน เห็นจากไลน์ที่ส่งภาพมา เป็นภาพที่ตนเองพอใจ ซึ่งทุกคนมีความสดชื่นเบิกบาน ประชาชนมีรอยยิ้มให้ทุกคน นั่นคือการทำงานของ ครม. ที่จะต้องให้ความสำคัญเรื่องการสร้างความใกล้ชิด พร้อมกับการสร้างความเข้าใจต่อประชาชนด้วยว่าเหตุใดเราจึงต้องมีโครงการต่างๆ ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานในทุกมิติ เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงโอกาส สำหรับมาตรการเฉพาะหรือโครงการเฉพาะกลุ่ม ก็ถือเป็นอีกเรื่องที่รัฐบาลจะต้องทำทั้งสองอย่าง คือ การสร้างความเข้มแข็งของโครงสร้างพื้นฐานในทุกมิติ ตลอดจนมาตรการเสริม มาตรการเร่งด่วนเพิ่มเติม

“สิ่งสำคัญของการประชุม ครม. นอกสถานที่นั้น ก่อให้เกิดโครงการใหม่ๆ ที่มีความต้องการเร็วขึ้น และใช้งบประมาณไม่มาก ซึ่งรัฐบาลจะหางบประมาณต่างๆ มาเสริมให้ทุกครั้ง โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เราก็ทำลักษณะนี้ตลอด เวลามารับฟังความคิดเห็น เรื่องไหนที่เร่งด่วนอะไรที่ยังไม่เข้าแผนก็จะนำมาพิจารณาศึกษาเข้าแผน โดยใช้งบประมาณ กลางบางส่วน เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน
ฉะนั้น วันนี้อยากให้ทุกคนสร้างความเข้าใจไปด้วยว่ารัฐบาลทำงานอย่างไร เพราะประชาชนต้องเข้าใจ เราจะทำงานฝ่ายเดียวไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคสมัยปัจจุบัน จะต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชน แต่เราต้องทำให้เขามีหลักคิดวิเคราะห์ หรือมีเหตุผลว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ สิ่งที่รัฐบาลมุ่งเน้นคือการใช้จ่ายงบประมาณอย่างคุ้มค่าประหยัดและมีประสิทธิภาพ และแก้ปัญหาการทุจริต ผิดกฎหมายทั้งปวง เพราะนโยบายรัฐบาล ผมมีความมุ่งมั่นอยู่แล้วว่านโยบายต่างๆ จะต้องไม่ทำให้เกิดผลกระทบหรือผลเสีย ต่อการกระทำผิดกฎหมาย หรือเอื้อประโยชน์กับใครทั้งสิ้น นั่นคือสิ่งที่รัฐมนตรีทุกท่านจะต้องไปกำกับดูแลในส่วนงานของท่าน ให้สอดคล้องกับนโยบายหรือเจตนารมณ์ของผม และของ ครม.ด้วย”
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ระบุในช่วงท้ายว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงรับสั่งกับตนเสมอมาว่า คนภาคใต้เป็นคนน่ารักจริงใจ มีฝีมือ ในเรื่องของหัตถกรรม ความเป็นเอกลักษณ์ของคนใต้ โดยจะเห็นได้จากการปักผ้าที่มีความสวยงามที่สุด ผ่านการแข่งขันและการตรวจสอบจากศูนย์ศิลปาชีพที่พระองค์ทรงช่วยเหลือมาโดยตลอด และวันนี้ก็ยังรับซื้อสินค้าเหล่านี้เพื่อไปใช้ประโยชน์ในงานต่างๆ สิ่งสำคัญอีกประการ คนใต้มีรอยยิ้มที่จริงใจ ลงพื้นที่ครั้งนี้ได้พบเด็กนักเรียนจำนวนมาก พบว่าเด็กๆ มีความกระตือรือร้น และทราบว่าการศึกษาในพื้นที่ภาคใต้ดีขึ้นมาก ผลจากการทำงานหลายส่วนที่ร่วมมือกับกระทรวงศึกษา ทั้งในระบบและนอกระบบ.
(ภาพประกอบจาก thaigov.go.th)
แหล่งที่มาhttps://www.thairath.co.th/news/politic/1752613

วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2563

https://www.thairath.co.th/news/society/1751645

"ลุงตู่" นั่งรถกันกระสุนลุย ครม.สัญจร นราธิวาส คอหวยไม่ลืมส่องทะเบียน 💖

คอหวยขอส่อง "ทะเบียนรถนายกฯ" ลุย ครม.สัญจร จ.นราธิวาส ขณะที่ "ลุงตู่" ประเดิมไหว้ "ศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะ" พร้อมขอประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข

เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมด้วยคณะ เดินทางลงพื้นที่ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.) ที่ จ.นราธิวาส
จากนั้น เมื่อ 09.05 น. นายกฯ พร้อมคณะ เดินทางด้วยรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ กันกระสุน ทะเบียน กฉ 4212 ยะลา ถึงศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะ เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดย ส.ส.พลังประชารัฐ 22 คน มาให้การต้อนรับ



ขณะที่ นายกฯ กล่าวภายหลังสักการะฯ ว่า ได้อธิษฐานขอพรให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข มีความปลอดภัย คิดหวังสิ่งใดขอสำเร็จทุกอย่าง เสร็จได้พบปะกับ ประธานมูลนิธิเจ้าแม่โต๊ะโมะ และตัวแทนสมาคมชาวไทยเชื้อสายจีน 4 สมาคม (สมาคมฮกเฮี้ยน สมาคมแต้จิ๋ว สมาคมแคระ และสมาคมไหหลำ) และสมาคมอิสลามสุไหงโก-ลก


จากนั้น นายกฯ ได้สอบถามประวัติความเป็นมาของศาลเจ้า พร้อมกล่าวแสดงความเป็นห่วงทุกคน และกล่าวชื่นชมว่าบ้านเมืองสะอาดเรียบร้อยดี ขอให้ร่วมมือกันเดินหน้าพัฒนาประเทศเพราะรัฐบาลไม่สามารถทำได้ฝ่ายเดียว โดยทางสมาคมศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะได้มอบเหรียญเจ้าแม่โต๊ะโมะ รุ่น 1 ปี 2515 เป็นที่ระลึกให้นายกฯ ซึ่งนายกฯ นำคล้องคอทันที.

แหล่งที่มา https://www.thairath.co.th/news/society/1751645






แบบรับสมัครนักกีฬาปี 2563

แบบรับสมัครนักกีฬาปี 2563 แบบรับสมัครนักกีฬา ปี2563 สีเหลือง กรอกข้อมูลการสมัคร หมดเขต30/03/63